วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555

วิธีการเลือกของขวัญให้ถูกใจผู้รับ

เรื่องราวดีดี จาก www.lovelinkflower.com

  เริ่มแรกคุณจำเป็นจะต้องวิเคราะห์ผู้รับของขวัญว่าอยู่ประเภทใดไหน
    ซึ่งเราสามารถแยกได้เป็นสองกรณี ดังนี้
    1. วัยของผู้รับ
    2. ความสัมพันธ์ระหว่างผู้รับและผู้ให้
# จากข้อหนึ่งเราสามาถแยกย่อยได้อีกดังนี้
    1. วัยของผู้รับแบ่งออกเป็น 9 ประเภท 
            1.1. วัยเด็กอ่อน (0-2 ขวบ) ซึ่งมักจะชอบของที่พอดีกับสัมผัสของตัวเอง และของที่มีเสียงดังหน้าฟัง ขอเตือนวัยนี้ คุณอย่าได้มอบตุ๊กตาขนาดบิ๊กเบิ้มให้ถ้ายังไม่อยากได้ยินเสียงร้องได้ด้วย ความกลัวจากเขา
            1.2. เด็กประถม วัยนี้ของที่อยากได้มักเป็นของเล่นซะส่วนใหญ่
            1.3. เ็ด็กมัทธยมต้น วัยนี้จะเป็นของขวัญที่ฮิตตามกระแส เพื่อนมีตัวเองก็อยากมีด้วย ดังนั้นคุณคงต้องสังเกตแล้วว่าในช่วงที่คุณจะมอบของขวัญให้กับเขานั้น มีอะไรกำลังฮิตติดตลาดหรือในหมู่กลุ่มเพื่อนๆของเขา
            1.4. เด็ก ม.ปลาย วัยนี้เป็นวัยพัฒนา ของขวัญจะเริ่มเป็นของขวัญชิ้นใหญ่หรือมีราคาพอตัว อย่างเช่น กระเป๋า ตุ๊กตาตัวใหญ่ ฯลฯ
            1.5. เด็กมหาลัย  วัยนี้ของขวัญมักจะเป็นของที่พอมีราคาอยู่มาก แต่ก็ยังติดความน่ารักอยู่พอสมควร

            1.6. วัยทำงาน (23-35 ปี) ของขวัญจะเริ่มเป็นทางการ แต่ก็ยังมีความน่ารักแอบซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแก้วสวยๆ น่ารักๆ หรือว่าจะเป็นขนมใส่กล่องหรูหราติดโบว์น่ารักเอาไว้
            1.7. วัยกลางคน (36-47 ปี) ของขวัญจะเป็นจำพวกผ้าขนหนู กระเช้าของขวัญ ซึ่งมักจะเ็ป็นของที่เป็นทางการ ที่เน้นความหรูหราและมีคุณค่า
            1.8. วัยกลางคนตอนปลาย (48-60 ปี) ของขวัญจะเน้นเป็นกระเช้าเสียส่วนใหญ่ แต่ความจริงนั้นถ้าคุณแนบช่อดอกไม้เล็กๆไปด้วย อาจทำให้ผู้รับดีใจมากกว่าทุกครั้งที่ได้รับอย่างแน่นอน เพราะกระเช้าของขวัญนั้นแม้อาจจะดูมีราคามากแต่ก็เป็นทางการจนดูไร้สีสัน แห่งความจริงใจ
            1.9. วัยสูงอายุ 61 ปี ขึ้นไป วัยนี้เป็นวันที่หยุดนิ่งไม่ต้องการสิ่งใดๆแล้ว แต่ความจริงกลับเป็นวัยที่เหงาที่สุด เพราะสิ่งที่เขารับรู้มีแต่ความร่วงโรยและเลือนหายไป ของขวัญที่ถูกใจคนวัยนี้จึงมักเป็นของแฮนค์เมคทำเอง หรือเป็นช่วงเวลาที่ได้อยู่กับใครสักคนที่ให้ความสำคัญและดูแลเอาใจใส่เขา
  

   2. ความสัมพันธ์ระหว่างผู้รับและผู้ให้
             2.1. คนรัก (แฟน,กิ๊ก,แอบรัก,ระยะคบดูใจไม่ถึงขั้นแต่งงาน) ของขวัญแนวนี้จะติดที่ความน่ารักความชอบโดยตรง โดยอาศัยลักษณะของผู้รับว่าชอบอะไรแบบไหน เช่น ชอบสีอะไร ชอบแนวไหน และไม่ชอบอะไร
             2.2. เพื่อนทั่วไป (เพื่อนร่วมงาน,เพื่อนร่วมห้อง,เพื่อนบ้าน) ส่วนมากขวัญจะเน้นเป็นไปทางตามมารยาท โดยเราอาจจะสังเกตจากของชอบซึ่งไม่ต้องลงรายละเอียดมากนักเอาแค่สีทีชอบหรือ รูปแบบ หรือบางทีอาจให้จากส่วนที่ขาด ตัวอย่างเช่น คุณไม่เคยเห็นเขาใส่นาฬิกาเลยคุณก็ลองให้นาฬิกาข้อมือกับเขารับรองว่าเขาจะ รู้สึกแปลกใจและดีใจที่คุณรู้จักสังเกตเขาทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ถูก เมินเฉยจากคนรอบข้าง
            2.3. เพื่อนสนิท ของขวัญข้อนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นของชอบหรือของที่เพื่อนสนิทอยากได้คุณเป็น เพื่อนสนิทกันต้องย่อมรู้ว่าเพื่อนชอบอะไรแบบไหน ถ้าไม่รู้ก็ลองชวนเพื่อนไปซื้อของด้วยกันแล้วสังเกตดูว่าเพื่อนคุณสนใจอะไร
            2.4. พี่น้องร่วมสายเลือด  อันนี้แนะนำให้พาไปซื้อด้วยกันแล้วค่อยแอบไปซื้อเซอร์ไพร์ให้ภายหลัง
            2.5. พ่อแม่ ของขวัญไม่ว่าจะเป็นอะไรท่านก็ดีใจและยินดีที่จะรับและเก็บไว้ดีที่สุดแต่ สุดท้ายสิ่งที่พ่อแม่ต้องการเป็นของขวัญมากที่สุดคือการเห็นลูกเป็นคนดีและ มีความสุขในชีวิต
            2.6. ญาติผู้ใหญ่ (ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา) ของขวัญมักจะเป็นของขวัญเครื่องดื่มบำรุ่งร่างกาย หรือไม่ก็เสื้อผ้า ผ้าขนหนู ทั้งที่เป็นของทำเองและที่ซื้อ แต่ถ้าจะให้ดีแนบดอกไม้หอมๆสักดอกไปให้ท่าน คงจะดีใจยิ่งขึ้น
           2.7. ญาติห่างๆ ของขวัญมักจะเป็นของขวัญตามมารยาท ซึ่งต้องดูว่าเป็นวัยใด แต่โดยส่วนมากจะให้ขนมกัน
           2.8. ครูบาอาจารย์ ของขวัญยอดฮิต คือ กระเช้า แต่สิ่งที่ท่านอยากได้มากที่สุดคือ ศิษย์ที่ไม่ลืมสิ่งที่ท่านพร่ำสอน ศิษย์ที่ไม่ลืมครูบาอาจารย์ เท่านั้นพอ
           2.9.  เจ้านาย ของขวัญชิ้นนี้ส่วนมากก็เป็นกระเช้าที่ดูมีราคาอีกนั่นแหละ
           2.10. ผู้มีพระคุณ ของขวัญเล็กๆน้อยๆไม่ต้องอลังการ เพียงแค่คุณไม่ลืมผู้มีพระคุณนั้น ก็คือของขวัญชิ้นสำคัญแล้ว....

           "แค่คุณลองใส่ใจและสังเกตวิเคราะห์ ก็ไม่ยากที่จะเลือกของขวัญให้ถูกใจได้..."

วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

10 วิธีเด็ด !! เปลี่ยนจากเพื่อนให้เป็นแฟน

เรื่องราวดีดี จาก www.lovelinkflower.com



 เมื่อ น้ำตาลกับมดอยู่ใกล้กัน บางครั้งน้ำตาลอาจจะเป็นฝ่ายหลงรักมดน้อย แต่ก็ไม่กล้าที่จะบอกออกไปตรง ๆ มันน่าอึดอัดมากกับการหลงรักคนที่สนิทสนมกันมาก ๆ ยิ่งได้อยู่ใกล้กันในวันฝนพรำ ใต้ร่มคันเดียวกันทำ จิตใจสั่นไหว แล้วทีนี้จะทำอย่างไรดีถึงจะเปลี่ยนจาก เพื่อนรักได้


1. ยอมรับกับตัวเองก่อน คุณอาจบอกใครต่อใครว่ารักเขาแบบพี่น้อง แต่ความจริงเป็นอย่างไร หัวใจมันก็คอยฟ้องอยู่ ดังนั้น ขั้นแรกสุด คุณต้องยอมรับเจ้าความรู้สึกนี้ และยอมรับว่าคุณยังไม่พอใจกับสิ่งที่เรียกว่า มิตรภาพแต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า ในขณะที่คุณเอาแต่มอง ผู้หญิงคนอื่นเขาก็มาเล็มมาตอด เพื่อนรักของคุณไปไหนถึงไหนแล้ว และก็มีแต่คุณนั่นแหละที่หัวเสีย แล้วจะทนกับสภาพแบบนี้ต่อไปอีกนานแค่ไหน

2. พูดจาภาษาดอกไม้ จริงอยู่ว่ามันติดปาก แต่เลิกเรียกเขาว่า เพ่” “แกหรือ ชื่อที่พ่อแม่เขาไม่ได้ตั้งให้อย่าง อ้วน เตี้ย แล้วก็ต้องหยุดพูดคำสมัยพ่อขุนรามกับเขาได้แล้ว ภาษาแบบนี้เขาเอาไว้ใช้กับเพื่อน และก็ไม่ได้รื่นหูหรือทำให้หัวใจเขาสั่นสะเทือนเลย

3. แต่งตัวแบบสาวหวาน เป็นผู้หญิงอินเลิฟก็ต้องแสดงออกบ้างนะ คุณอาจมีสไตล์ และก็เป็นตัวของตัวเองมาก แต่ลองทำความรู้จักกับสาวหวานที่อยู่ในกระจกกันหน่อย ลองเปลี่ยนจากกางเกงยีนส์ตัวเก่งมาเป็นกระโปรงหวาน ๆ สักตัว คำแนะนำนี้อาจเชยไปนิด แต่รับรองได้ ผู้ชายเป็นสัตว์ประเสริฐที่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่เขาเห็น รับรองว่าพ่อหนุ่มต้องสังเกตความเปลี่ยนแปลงของคุณแน่ ๆ

4. อย่าปิดหัวใจ เผื่อทางเลือกไว้นิดนึง การคบกับหนุ่มคนอื่นที่จริงใจสักคนไม่ใช่เรื่องเสียหายถ้าไม่มีอะไรเกินเลย เกิด เพื่อนรักของคุณเขาถามถึงหนุ่มคนนั้น ก็เป็นโอกาสดีที่จะเช็คว่าเขากังวลเรื่องคู่แข่งรึเปล่านะ

5. อย่าเอาแต่นั่งฝันหวาน สมมติว่ามีเพื่อน B ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วยเลยมาพูดข้างหูทุกวันว่า เธอกับ A ถ้าคบกันคงดีนะคุณจะรู้สึกยังไง? มองในอีกแง่หนึ่ง คุณก็คงดีใจอยู่ที่ B เห็นอย่างที่เราเห็น แต่ A ต่าง หากที่เป็นคนสำคัญ และเขาจะไม่หันมาคบกับคุณเพียงเพราะเสียงซุบซิบของคนในวงนอก คำถามอยู่ที่ว่าคุณกับเขาเคมีตรงกันแค่ไหน มีใจตรงกันรึเปล่า

6. เฟลิร์ตสนุก ๆ ลอง ยิ้มให้มากขึ้นและหัวเราะอย่างเป็นธรรมชาติ หาโอกาสแอบแตะแขนเขาบ้าง ถ้าผมยาวสลวยก็ลองสะบัดผมดูสักนิด เราไม่ได้บอกให้คุณทอดสะพาน แต่ถ้าผู้ชายคนนี้ทำให้เรารู้สึกเหมือนมีผีเสื้ออยู่ในท้องจริง ๆ ทั้งดวงตาและรอยยิ้มของคุณจะเปล่งประกายอยู่แล้วน่ะ

7. ชวนเดตเสียเลย เรื่องเศร้าที่สุดสำหรับการคิดถึงใครสักคนก็คือ การที่คน ๆ นั้นนั่งอยู่ข้าง ๆ เรานั่นแหละ คุณอาจจะแฮงเอาต์กับเขาฉันเพื่อน แต่ความจริงแล้วอยากเอามือลูบไล้เส้นผมไม่ได้หวีของเขาใจจะขาด ได้เวลาชวนเขาเดตเป็นเรื่องเป็นราวแล้วล่ะ อย่าทรมานตัวเองเลยนะ

8. หาข้อมูล อยากบอกเขาตรง ๆ แต่กลัวว่าคุณจะเฮิร์ตเสียเองใช่มั้ยล่ะ ลองถามเพื่อน ๆ ว่าเขามีปฏิกิริยาอย่างไรกับเรื่องของคุณ หมั่นอ่านภาษากายเขาหน่อย เขามีท่าทางอยากเป็นมากกว่าเพื่อนรึเปล่า หาเรื่องจับมือเราบ้างไหม แววตาที่เขามองเราแปลกไปจริงเหรอ แต่ขอร้องว่าอย่าจินตนาการไปคนเดียว ถามคนอื่นด้วย

9. พูดตรง ๆ เมื่อผ่านข้ออื่นมาหมดแล้ว แต่เขาก็ยังไม่รู้สักที การบอกตรง ๆ อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด มองหาที่ส่วนตัวเงียบ ๆ บอกความรู้สึกของคุณให้เขารู้ ค่อย ๆ บอกให้เป็นลำดับขั้นตอน เป็นเหตุผลหน่อย (ผู้ชายตอบสนองกับเหตุ-ผลมากกว่าอารมณ์ ถึงเขาจะเป็นเพศที่อารมณ์เป็นใหญ่ก็ตาม) หลังจากนั้น ถามความรู้สึกเขาแล้วฟังให้ดี ๆ ล่ะ


10. รอ ใจ เย็น ๆ นะ คนที่ใช่ต้องมาพร้อมกับเวลาที่เหมาะ แม้ว่าในที่สุดคุณจะตระหนักได้ว่าตัวเองมีความรู้สึกอย่างไร แต่เขาอาจจะคบกับคนอื่นอยู่ ในกรณีนี้ก็รักษามิตรภาพไว้ให้ดี ใครจะรู้ ในอนาคตอาจกลายเป็นอย่างอื่น คู่กันแล้วไม่แคล้วกัน





ที่มา lisaguru.com

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

อลังการ ชุดเจ้าสาวทำจากกุหลาบแดง 9,999 ดอก


เรื่องราวดีดี จาก www.lovelinkflower.com

อลังการ ชุดเจ้าสาวทำจากกุหลาบแดง 9,999 ดอก
อลังการ งานสร้าง เสี่ยวฟาน หนุ่มจีน ตัดสินใจขอแฟนสาวแต่งงานในวันวาเลนไทน์ด้วยสุดโรแมนติก สั่งทำชุดเจ้าสาวที่ทำมาจากดอกกุหลาบสีแดงทั้งหมด 9,999 ดอก

เดลิเม ลของอังกฤษ รายงานเรื่องราวสุดโรแมนติกของคู่รักจีนคู่หนึ่งในวันวาเลนไทน์ว่า เสี่ยวฟาน หนุ่มจีนตัดสินใจขอ หยินมี่ แฟนสาวแต่งงานในวันวาเลนไทน์ พร้อมทั้งสั่งทำชุดเจ้าสาวที่ทำมาจากดอกกุหลาบสีแดงทั้งหมด 9,999 ดอก

เสี่ยว ฟาน และช่างตัดเย็บเสื้อผ้า ช่วยกันเย็บดอกกุหลาบสีแดงทีละดอกเข้าด้วยกัน ขณะเดียวกันฝ่ายหยินมี่เองก็ยืนรออย่างทรหดอดทนในระหว่างที่แฟนหนุ่มและช่าง กำลังเย็บชุด จนในที่สุดก็กลายเป็นชุดเจ้าสาวสีแดงที่ดูสง่างาม และอลังการ สมบูรณ์แบบเป็นอย่างยิ่ง หลังจากนั้น เสี่ยวฟาน ก็ได้ควงแฟนสาวซึ่งสวมชุดกุหลาบแดงไปยังสวนสนุกฉางหลง พร้อมทั้งขอแต่งงานท่ามกลางบรรยากาศสุดโรแมนติก ซึ่งเจ้าหล่อนก็ตอบตกลงทันที

การที่เสี่ยวฟานเลือกใช้กุหลาบ 9,999 ดอก เนื่องจากคนจีนเชื่อว่า เลข ถือว่าเป็นเลขมงคล ซึ่งมีความหมายว่า "นิรันดร" หรือเป็นการสื่อนัยยะให้คู่รักครองคู่กันอย่างมีความสุขตลอดไป



บทความจาก http://news.giggog.com


วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2555

10 นิสัยผู้ชายที่ผู้หญิงหลงรัก

  เรื่องราวดีดี จาก www.lovelinkflower.com

    10 นิสัยผู้ชายที่ผู้หญิงหลงรัก  

 เข้าใจว่าจิตใจของผู้หญิงนั้นยากแท้หยั่งถึงจริงๆ สำหรับผู้ชายหลายคน ทำอะไรไม่ถูกใจ นิดๆ หน่อยๆ ก็โกรธเป็นฟีนเป็นไฟ อย่างที่เรียกกันว่า อาร์ตตัวแม่ แต่จริงๆแล้วอาร์ตตัวแม่ก็ไม่มีอะไรที่เข้าใจยาก ถ้าหากหนุ่มๆรู้ถึงความต้องการขั้นพื้นฐานของสาวๆว่าที่จริงแล้วพวกเธอต้องการหนุ่มแบบไหนกันแน่ ถ้าอยากรู้มาดูกันเลยว่าแบบไหนบ้างที่คุณเป็น

1. ผู้ชายอารมณ์ดี โดยส่วนใหญ่ของผู้หญิงมักจะชอบผู้ชายอารมณ์ดี สนุกสนาน และเรียกเสียงหัวเราะของพวกเธอได้เสมอ ทำให้เธอรู้สึกที่ได้ใกล้ชิด

2. เสมอต้นเสมอปลาย จีบกันวันแรกเป็นอย่างไร เวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ไม่ได้หมายถึงว่าคุณทำตัวแย่อย่างไรก็ยังแย่เสมอต้นเสมอปลาย แต่ให้พัฒนาไปในทางที่ดีบ้างก็ได้ และขอให้ดีแบบนี้ตลอดไปเท่านั้นเอง

3. มีความเป็นผู้นำ แต่ไม่ได้ยกตนข่มผู้หญิง สิ่งสำคัญที่ผู้ชายควรจะมีคือ ความเป็นผู้นำที่ดี ปกป้องและดูแลเธอได้ แต่ต้องไม่ข่มเหงเธอว่าคุณเก่งกว่าแค่ไหน หรือแสดงตัวว่าเธอไม่มีทางอยู่ได้หลอกหากไม่มีคุณ !!!!

4. ให้เกียรติผู้หญิงทั้งต่อหน้าและลับหลัง อย่างเช่นไม่นำเธอไปนินทาในกลุ่มเพื่อนผู้ชาย หรือทะเลาะกันในที่สาธารณะให้ชาวบ้านรับรู้

5. ผู้ชายแต่งตัวดี สะอาดสะอ้าน ใครๆต่างก็ชอบอยู่ใกล้คนที่แต่งตัวดีทั้งนั้น อย่าลืมแบ่งเวลาดูแลตัวเองด้วยการโกนหนวน โกนเครา ใส่เสื้อผ้าสะอาดๆ

ุ6. จะไปไหนก็บอกกันบ้าง เป็นแฟนกันจะไปไหนมาไหนก็บอกให้รู้กันบ้าง ถ้าเธอโทรถามคุณจะหาว่าเธอโทรตาม ครามหน้าก่อนไปไหรบอกเธอหน่อย จะได้ไม่ต้องคอยโทรตามเช็ก

7. ง้อบ้างก็ดี (ถึงแม้ตัวเองไม่ผิดก็ตาม) เวลาผู้หญิงงอนก็หมายถึงเธอต้องการได้รับความสนใจเป็นพิเศษ อย่างเช่น การง้อ หรือการเอาใจ ช่วยทำให้เธออารมณ์ดีขึ้น

8. ผู้ชายอบอุ่น พึ่งพาได้  เวลาที่เธอเดือดร้อนใจหรือ มีปัญหาควรเป็นที่พึ่งพาและให้คำปรึกษาที่ดีได้

9. ผู้ชายพูดจาไฟเราะอ่อนหวาน แต่ไม่แหยาะแหยะ พูดจาด้วยคำเพราะๆหวานๆ แบบคู่อื่นๆช่วยเติมความหวานให้กันและทำให้เธอใจอ่อนทุกครั้งที่ได้ฟัง แต่ก็ไม่ใช่ผู้ชายที่แหยาะแหยะไม่เอาไหน

10. เอาใจใส่และจำวันสำคัญได้บ้าง จดจำได้ว่าเธอชอบอะไร ไม่ชอบอะไร และไม่ลืมวันสำคัญๆ มีของขวัญให้ตามโอกาสพิเศษบ้างก็จะดี

ข้อมูล จากหนังสือพิมพ์ M2F